ฝีดาษลิง ระวังสัมผัสตุ่มหนอง เสี่ยงติดจากฉี่หรือไม่ ไทยลุ้นวัคซีนเชื้อเป็น
แม้โรคฝีดาษลิง (Monkeypox) หรือฝีดาษวานร ติดต่อไม่ง่าย มีความรุนแรงน้อยกว่าฝีดาษคน หรือไข้ทรพิษ ประมาณ 3-30 เท่า มีอัตราการเสียชีวิต 1-10% และไม่สามารถติดต่อผ่านทางอากาศได้เช่นเดียวกับโควิด แต่ไม่ควรประมาท เพราะเป็นโรคติดต่อจากไวรัส โดยการสัมผัสโดยตรงกับเลือด สารคัดหลั่ง หรือตุ่มหนองของสัตว์ที่ติดเชื้อ หรือถูกสัตว์ที่มีเชื้อกัดข่วน การกินเนื้อสัตว์ที่ปรุงไม่สุก และการสัมผัสผู้ป่วยผ่านทางสารคัดหลั่ง จากน้ำมูกน้ำลาย เลือด ผิวหนังที่เป็นตุ่มหนอง อุปกรณ์ที่มีการปนเปื้อนเชื้อ หรือทางปัสสาวะในห้องน้ำ อาจมีความเสี่ยง จากบางข้อมูลที่เผยแพร่ออกมา
mgwin88 เมื่อคนรับเชื้อเข้าสู่ร่างกาย จะมีระยะฟักตัวประมาณ 7-14 วัน หรืออาจนานถึง 21 วัน แต่สามารถควบคุมการระบาดได้ด้วยการฉีดวัคซีนไข้ทรพิษ ทำให้ประชากรในไทยที่เคยฉีดวัคซีนหรือปลูกฝี ช่วงก่อนปี 2523 มีความเสี่ยงน้อยกว่ากลุ่มที่เกิดหลังปี 2523 ซึ่งไม่เคยได้รับการปลูกฝีมาก่อน นั่นหมายความว่า ผู้ที่เคยปลูกฝี หรืออายุประมาณ 42 ปีขึ้นไป แม้จะติดเชื้อฝีดาษลิง แต่ตุ่มที่เกิดขึ้นจะน้อยมาก เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้เคยปลูกฝีมาก่อน ปัจจุบันมีวัคซีนฉีดเข้าใต้ผิวหนังของบริษัทเดนมาร์ก และได้รับการรับรองจาก อย.ของสหรัฐฯ โดยใช้ไวรัสเชื้อเป็น กลุ่มฝีดาษ (Modified Vaccinia Ankara strain) เป็นไวรัสที่อ่อนฤทธิ์ ไม่สามารถก่อโรคได้ นำมาฉีดในการป้องกัน เฉพาะผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยไม่เกิน 4 วัน และกลุ่มเสี่ยงเท่านั้น
mgwin88
?? ขณะที่วัคซีนฝีดาษของไทยในอดีตประมาณหมื่นโดส ซึ่งเป็นเชื้อเป็นมีชีวิต มีการเก็บรักษาในลักษณะผงและแช่แข็งมานาน 43 ปี โดยองค์การเภสัชกรรม ได้ส่งให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นำไปเพาะเชื้อ และน่าจะเป็นข่าวดีของคนไทย เพราะเบื้องต้นพบว่าสามารถเพาะเชื้อได้ แต่ต้องใช้เวลาเพื่อยืนยันความปลอดภัยว่าไม่มีการปนเปื้อน และมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคได้หรือไม่ ส่วนข้อมูลคนที่ได้รับการปลูกฝี ก่อนปี 2523 สามารถป้องกันได้ 85% นั้น “นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์” อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ระบุ เป็นข้อมูลเก่า แต่เชื้อฝีดาษตัวปัจจุบันยังไม่มีข้อมูล หากพบผู้ป่วยฝีดาษลิงในประเทศ จะนำเชื้อมาเพาะกับภูมิคุ้มกันจากเลือดของคนที่ได้รับวัคซีนก่อนปี 2523 มาตรวจว่าสามารถสู้กับเชื้อได้หรือไม่ แต่ขณะนี้ยังไม่เจอผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงในไทย
mgwin เพื่อความกระจ่างในเรื่องนี้ว่า ตกลงคนที่ปลูกฝี สามารถป้องกันโรคฝีดาษลิงได้ 85% หรือไม่ “นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร” รองอธิบดีกรมควบคุมโรค บอกว่า เป็นข้อมูลจากแอฟริกาที่มีการระบาดของฝีดาษในคน มาเป็นระยะๆ ก่อนระบาดในยุโรปในช่วงหลัง และดูเหมือนว่าวัคซีนฝีดาษคน มีประสิทธิผลมากถึง 85% ในการป้องกันฝีดาษลิง แม้ไม่ตรงสายพันธุ์กัน “สมัยเมื่อก่อนมีการระบาดของฝีดาษคน จึงมีการปลูกฝี แต่ฝีดาษลิงมาทีหลัง จากสัตว์ตระกูลฟันแทะ จึงไม่สามารถเทียบเคียงกันได้โดยตรง เพราะวัคซีนสมัยนั้นไม่ได้สกัดจากเชื้อฝีดาษลิงโดยตรง แต่อย่างไรแล้วฝีดาษคน ก็มีประโยชน์ และเพื่อให้เห็นภาพชัดๆ อย่างการปลูกฝีเมื่อ 100 ปีที่แล้ว เป็นเชื้อฝีดาษวัว ก็สามารถใช้ได้ 80-90% ในการสร้างภูมิคุ้มกันป้องกันเชื้อ และถ้าวัคซีนฝีดาษเมื่อ 40 กว่าปีของไทยใช้ได้ ก็น่าจะใช้ป้องได้เช่นกัน และคนอายุมากกว่า 42 ปีในไทย ก็อาจไม่เป็นฝีดาษลิง” แม้ไทยมีการเปิดประเทศ ไม่อยากให้กังวลว่าจะมีการระบาดของฝีดาษลิงในไทย เพราะไม่ได้ติดง่ายเหมือนโควิด และเป็นไวรัสคนละสปีชีส์ โดยโควิด ติดต่อง่ายทางลมหายใจจาก 100 มาเป็นพันคนในช่วง 1 อาทิตย์ แต่ฝีดาษลิง จะติดต่อกันเพียงหลักร้อยเท่านั้น ทำให้ไม่มีความน่ากลัวมากนัก เป็นการติดต่อจากการสัมผัสใกล้ชิด และการมีเพศสัมพันธ์ นอกจากนี้ฝีดาษลิงจะเริ่มแพร่เชื้อได้ ก็ต่อเมื่อมีตุ่ม ทำให้คนระมัดระวังมากขึ้นในการสัมผัส ซึ่งมีความเสี่ยงสูงในการติดเชื้อมากที่สุด ส่วนความกังวลใจของคนในการเข้าห้องน้ำสาธารณะ เกรงว่าจะติดเชื้อฝีดาษลิง อยากให้เข้าใจว่าการปัสสาวะไม่ได้ฟุ้งกระจายมาก จนแพร่เชื้อหรือรับเชื้อได้ แต่อยู่ที่ตุ่มบริเวณอวัยวะเพศ หากแตกออกมาก็สามารถแพร่เชื้อได้จากการสัมผัสโดยตรง ไม่ใช่จากการปัสสาวะ จากความกลัวของหลายๆ คน.
mgwin88
??