เอฟ-16 เหยี่ยวเวหารับบทผู้ร้ายแห่ง โรงเรียนฝึกนักบินท็อปกัน ทัพเรือสหรัฐฯ
เครื่องบินขับไล่ เอฟ-16 ที่สมรรถนะสูงของกองทัพอากาศหลายชาติ ถูกกองทัพเรือสหรัฐฯ เลือกมาเพื่อเป็นเครื่องบินข้าศึกสมมติสำหรับโรงเรียนการบินท็อปกัน เพื่อฝึกฝนนักบินรบอันเป็นที่สุดของที่สุด สัปดาห์นี้ขอพาไปทำความรู้จักกับฝูงบินเอฟ-16 ของกองทัพเรือสหรัฐฯ กองทัพเรือเดียวของโลกที่มีเครื่องบินขับไล่ เอฟ-16 ใช้งาน แต่ไม่ได้นำไปใช้ปฏิบัติการรบเหมือนกับเอฟ/เอ-18 อี/เอฟ ซูเปอร์ฮอร์เน็ต แต่มันกลับถูกนำมาใช้งานในฐานะเครื่องบินที่รับบทผู้ร้าย ในเกมการจำลองสงครามการรบทางอากาศ เพื่อเคี่ยวเข็ญสร้างนักบินของกองทัพเรือสหรัฐฯ ให้เป็นที่สุดของที่สุด และแน่นอนว่าพอพูดถึงคำนี้ นั่นหมายถึง ท็อปกัน โรงเรียนฝึกการใช้อาวุธและการบินรบอันเลื่องชื่อ "ท็อปกัน" ทำไมถึงต้องเป็นเอฟ-16 แล้วอะไรทำให้กองทัพเรือสหรัฐฯ ยอมรับในเครื่องบินรุ่นนี้ แม้ว่าจะเป็นเรื่องรุ่นเก่าผลิตมานานนับ 30 ปี
mgwin88 ต้นกำเนิดฝูงบินข้าศึกสมมติ (aggressor squadron) ฝูงบินข้าศึกสมมติ คือ ฝูงบินที่จำลองตัวเองเป็นอากาศยานฝ่ายตรงข้ามในเกมกลยุทธ์ทางอากาศ โดยใช้กลยุทธ์และรูปแบบการบินแบบฝ่ายตรงข้าม เพื่อให้เกิดความสมจริงมากที่สุดในเกมจำลองสงครามทางอากาศกับนักบินของฝ่ายตัวเอง โดยอาจใช้เครื่องบินของฝ่ายตรงข้าม หรือเครื่องบินฝ่ายเดียวกันเอง แต่ติดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือทำสีสันเพิ่มเติมเพื่อทำให้ดูเป็นเครื่องบินฝ่ายตรงข้าม กำเนิดขึ้นมาอย่างเป็นทางการครั้งแรก เมื่อปี 1968 ที่ Navy Fighter Weapons School ของกองทัพเรือสหรัฐอเมริกาหรือ ที่คนทั่วไปรู้จักกันดีคือ TOPGUN โดยนำเครื่องบิน เอ-4 สกายฮอว์ก มาสมมติเป็นเครื่องบินมิก-17 คู่ต่อกรที่สำคัญของนักบิน ทร.สหรัฐฯ ในช่วงสงครามเวียดนาม เนื่องจากอัตราการยิงเครื่องบินข้าศึกตกลดลงอย่างมาก เนื่องจากเครื่องบินขับไล่ของ ทร.สหรัฐฯ อย่าง เอฟ-4 บี/เจ ไม่มีการติดปืนกล มีแต่มิสไซล์นำวิถี เมื่อเข้าสู่การรบติดพัน ทำให้เสียเปรียบ มิก-17 ที่มีปืน อีกทั้ง มิก-17 มีความคล่องแคล่วในการบินมากกว่า เอฟ-4 ทำให้ต้องมีการเสริมทักษะในการบินรบ รวมทั้งเทคนิคการใช้อาวุธ เพื่อให้เกิดชัยชนะ โดยได้คำแนะนำจากประสบการณ์ของนักบินผ่านศึกและเสืออากาศรุ่นพี่ เพื่อให้สมจริงนำมาสู่ เครื่องบินข้าศึกสมมติ เอฟ-16 เอ็น เครื่องบินข้าศึกสมมติส่วนใหญ่ที่ถูกนำมาใช้งานเป็นเครื่องบินเก่าของกองทัพเรือ อย่างเอ-4 สกายฮอว์ก และเอฟ-5 อี ไทเกอร์ ทู ที่ใช้งานมาตั้งแต่ยุค 60-70 เริ่มมีความล้าของโครงสร้าง และ ขาดความทันสมัย ไม่อาจทัดเทียมเครื่องบินขับไล่รุ่นใหม่ๆ ของรัสเซียอย่าง มิก-29, ซู-27 และ มิราจ-2000 ของฝรั่งเศส กองทัพเรือสหรัฐฯ จึงได้เริ่มโครงการจัดหา โครงสร้างอากาศยานรุ่นใหม่ ที่จำนำมาดัดแปลงเป็นเครื่องบินข้าศึกสมมติ โดยเป็นการแข่งขันระหว่าง เจเนอรัล ไดนามิก เอฟ-16 ซีไฟต์ติ้งฟัลคอน บล็อก 30 แบบที่มีใช้งานใน ทอ.สหรัฐฯ กับ เครื่องบินขับไล่ เอฟ-20 ไทเกอร์ชาร์ค ต้นแบบเครื่องบินขับไล่ที่เคยเป็นคู่แข่งกันในโครงการเครื่องบินขับไล่เบาต่อชาติพันธมิตรของสหรัฐฯ โดยผู้ชนะในโครงการนี้ จะได้รับเลือกเข้าประจำการในฝูงบินข้าศึก (adversary squadrons) ที่ VF-43 VF-45 VF-126 และ VFA-127 ในตอนแรกเอฟ-20 ดูจะได้รับความนิยมและสนับสนุนจากบรรดาครูฝึกของท็อปกัน เพราะต่างบินกับ เอฟ-5 อีกันมาก่อน โดย เอฟ-20 พัฒนามาจากโครงสร้างของ เอฟ-5 แต่มีเครื่องยนต์เดียว และติดตั้งระบบอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งเรดาร์ ห้องนักบินระบบเดินอากาศที่ทันสมัย แต่สุดท้ายเอฟ-16 ก็ชนะโครงการนี้ด้วย ราคาที่สามารถทำได้ต่ำกว่าราคากลางที่ ทร.สหรัฐฯ ตั้งไว้ การพ่ายแพ้ของเอฟ-20 ครั้งนี้ ทำให้เอฟ-20 ปิดฉากตัวเองในตลาดการแข่งขันเครื่องบินขับไล่ไปด้วย
mgwin88
?? โดยเอฟ-16 ซี ที่กองทัพเรือซื้อ ลำตัวโครงสร้างเป็นรุ่นใหม่ แต่ระบบเรดาร์เป็นรุ่น AN/APG-63 ที่ติดบนเอฟ-16 เอรุ่นเก่า โดยมีปีกที่ทำจากไทเทเนียมเหมือนเดิม ถอดปืนกล M-61A1 ออกพร้อมทั้งติด กระเปาะแฝด 2 ข้างช่องรับอากาศ เพื่อทำให้หน้าตัดเรดาร์ของเอฟ-16 รุ่นนี้ใหญ่ขึ้น รวมทั้งระบบใดๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรบในระยะสายตาถูกตัดออกไป เพราะเอฟ-16 รุ่นนี้จะมาเป็นคู่ซ้อมหลักในการรบระยะติดพัน หรือ ด็อกไฟต์ พร้อมทั้งกำหนดชื่อรุ่นใหม่เป็น เอฟ-16 เอ็น (F-16N) สำหรับรุ่นที่นั่งเดี่ยวและ TF-16N สำหรับรุ่นฝึกบินแบบ 2 ที่นั่ง ถือเป็นรุ่นที่ผลิตอออกมาเพื่อ โรงเรียนการบินท็อปกันโดยเฉพาะ เริ่มใช้งานครั้งแรกในปี 1987 บินจนสุดขีดจำกัด ทำให้ต้องปลด เอฟ-16 เอ็นในเวลาแค่ 8 ปี การมาของเอฟ-16 ทำให้กลายเป็นเครื่องบินข้าศึกที่คล่องแคล่ว ว่องไว สามารถทำท่าทางการบินที่ฝืนธรรมชาติได้ แต่ด้วยภารกรรมที่ทำกับตัวเครื่อง ที่ครูฝึกดึงเครื่องด้วยแรงจีสูงมาตลอด ทำให้พบการแตกร้าวของโครงสร้างลำตัว ทำให้ต้องสั่งระงับการบินเอฟ-16 เอ็นทั้งหมด เพื่อป้องกันอันตราย แต่จากการประเมินแล้วไม่สามารถซ่อมให้เหมือนเดิมได้อีก เอฟ-16 เอ็นจึงต้องถูกปลดประจำการในปี 1994 และกองทัพเรือก็หันไปใช้งานเครื่องบินรุ่นอื่นๆ ที่มีในกองทัพ เพื่อเป็นเครื่องบินข้าศึกสมมติแทน อาทิ เอฟ-5 อี ที่ซื้อต่อเครื่องบินเก่าของ ทอ.สวิตเซอร์แลนด์ เอฟ-14 เอ ทอมแคท และ เอฟ/เอ-18 เอ ฮอร์เนต แต่อย่างไรก็ตาม เครื่องบินเหล่านี้ก็ถูกปลดประจำการไปตามอายุการใช้งาน เอฟ-16 จากสุสานเครื่องบิน กลับมาใช้งานอีกครั้ง ในปี 2002 กองทัพเรือ รับมอบเครื่องบินเอฟ-16 เอ/บี จำนวน 14 ลำ จาก AMARC หรือที่รู้จักกันดีว่าเป็นสุสานเครื่องบินกลางทะเลทรายในฐานทัพอากาศเดวิส มอนธาน รัฐแอริโซนา แต่มันไม่ได้เป็นเครื่องบินเก่ามือสองไปเสียทีเดียว ต้องบอกว่าเก่าเก็บในโกดัง เพราะเป็นเครื่องบิน เอฟ-16 ที่ปากีสถานสั่งซื้อไว้แต่สหรัฐฯ ไม่ได้ส่งมอบให้ โดยทั้ง 14 ลำได้บ้านใหม่ เป็น NSAWC ศูนย์การฝึกใช้อาวุธทางอากาศของกองทัพเรือ อันเป็นบ้านใหม่ของโรงเรียนท็อปกัน โดยย้ายจาก สถานีการบินนาวิกโยธินมิรามา เมืองซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย มาอยู่ที่สถานีทหารเรือฟอลลอน (NAS Fallon) รัฐเนวาดา ที่แห่งนี้ คือ ศูนย์กลางความเป็นเลิศการฝึกสำหรับนักบินทหารเรือ เพื่อพัฒนาทักษะให้กับนักบินทหารเรือ จากทุกฝูง ทุกหน่วยบินของ ทร.สหรัฐฯ โดยมีทั้งการฝึกบินภาคปฏิบัติ การเรียนในห้องภาคทฤษฎี การสนับสนุนการปฏิบัติการและข่าวกรองโดยตรง เครื่องบินทั้งหมด 14 ลำถูกนำมาทำสีสันใหม่จาก ลายพรางเดิมสีเทา เป็นสีพรางฟ้าแบบเครื่องบินรัสเซีย รวมทั้งสีพรางทะเลทรายแบบชาติในตะวันออกกลาง อนาคตที่เป็นไปได้ เมื่อเอฟ-16 รับบทเป็นผู้ร้ายของกองทัพเรือ
mgwin กองทัพเรือสหรัฐฯ ยังมีฝูงบินข้าศึกสมมติอีกหลายฝูงบินที่ยังใช้งานเครื่องบินเก่าอย่าง เอฟ/เอ-18 เอ+, ซี, ดีฮอร์เน็ตรุ่นเก่า ที่ใช้งานมาตั้งแต่ปลายยุค 80-90 โดยเฉพาะฝูงบิน VFA-204 ที่มีโอกาสพิจารณานำเอฟ-16 เก่าของ Air National Guard กองทัพอากาศสหรัฐฯ นำมาปรับปรุงใหม่ เพื่อใช้งานทดแทนเอฟ/เอ-18 โดยหากเอฟ-16 เข้ามาทดแทนมันจะยกระดับการฝึกให้สมจริงทันสมัยมากขึ้น เพราะได้เครื่องบินขับไล่ที่สมรรถนะสูง ในการฝึกรบแบบตัวต่อตัวอีกฝูงหนึ่ง สำหรับนักบินกองทัพเรือสหรัฐฯ ที่บินกับเครื่องบินขับไล่หลักอย่าง เอฟ/เอ-18 อี,เอฟ ซูเปอร์ฮอร์เน็ต เอฟ-16 ถือเป็นทางเลือกในการอัปเกรด โรงเรียนกวดวิชา เพื่อสร้างนักบินขับไล่ที่ดีที่สุดให้พร้อมปฏิบัติงานต่อไป ข้อมูลจำเพาะ เอฟ-16 เอ ไฟต์ติ้งฟัลคอน US NAVY
เอฟ-16 เอ เป็นเครื่องบินขับไล่ไอพ่นที่นั่งเดียว แบบหลายบทบาทที่ถูกกำหนดให้เป็นเครื่องบินข้าศึกสมมติ แบบเครื่องยนต์เทอร์โบแฟน Pratt & Whitney F100-PW-220 ให้แรงขับสูงสุด 23,000 ปอนด์ ความคล่องตัวสูง มีระบบการติดตามเป้าหมาย และระบบการใช้อาวุธที่ซับซ้อน สำหรับการสกัดกั้นและการโจมตีของเครื่องบินลำอื่น ส่วน F-16B เป็นรุ่นสองที่นั่งซึ่งปกติแล้วจะใช้สำหรับการฝึกนักบิน โดยมีนักบินผู้สอนอยู่ที่ห้องนักบินด้านหลัง ความยาว : 47 ฟุต 8 นิ้ว (14.52 เมตร)
ปีกกาง : 31 ฟุต (9.45 เมตร)
สูง t: 16 ฟุต 5 นิ้ว (5.01เมตร)
น้ำหนักวิ่งขึ้นสูงสุด 37,500 ปอนด์ (16,875 กก.)
ความเร็ว 1.73 มัค (2123 กม./ชม.) ที่ความสูง 39, 870 ฟุต (12,000 เมตร)
เพดานบินสูงสุด 50,000 ฟุต (15,420 กม.)
พิสัยบินปฏิบัติการ 1,260 ไมล์ (2027 กม.)
เครื่องบินลำนี้ถือเป็นเครื่องบินขับไล่สมัยใหม่ที่ปราดเปรียว และได้พิสูจน์ตัวเองในการต่อสู้ทางอากาศและการโจมตีทางอากาศสู่พื้น เครื่องบินฝึก F-16 มุ่งเน้นไปที่การพัฒนายุทธวิธี การประเมิน การฝึกอบรมภาคปฏิบัติ เพื่อสร้างนักบินรบ ภายใต้การทำงานร่วมกัน และมาตรฐานของการฝึกอบรมภายในชุมชนการบิน เอฟ-16 มีการควบคุมการบินที่ยอดเยี่ยมผ่านระบบ "fly-by-wire" โดยคันควบคุมการบังคับอยู่ที่ด้านข้าง ระบบนำทางที่มีความแม่นยำสูง, วิทยุ UHF/VHF, ระบบลงจอด, ระบบเรดาร์ตรวจจับ AN/APG-66/68 และสามารถติดกระเปาะต่อต้านสงครามอิเล็กทรอนิกส์แยกได้ เอฟ-16 ทั้งหมดมีระบบสถาปัตยกรรมที่อนุญาตให้มีความยืดหยุ่น ทำหน้าที่ได้หลายบทบาทในการโจมตีอย่างแม่นยำ โจมตีกลางคืน และภารกิจสกัดกั้นนอกระยะการมองเห็น ทั้งนี้ โครงการจัดหาเริ่มในปี 2002 เป็น F-16A จำนวน 10 ลำ และ F-16B (รุ่น 2 ที่นั่ง) จำนวน 4 ลำ ภายใต้สัญญาการจัดหาของล็อกฮีด มาร์ตินและ Pratt & Whitney
mgwin88
??